ส่งสัตว์ไปมลายู 2481
ในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ หลังจากโรคระบาดในท้องที่จังหวัดภาคใต้ถูกปราบและสงบลง รัฐบาลแห่งสหรัฐมะลายูยินยอมให้ส่งสัตว์ในจังหวัดปัตตานี ยะลา และสงขลาออกไปจำหน่าย
ในปี พ.ศ. ๒๔๘๑ หลังจากกรมปศุสัตว์ได้ปราบโรคระบาดในท้องที่จังหวัดภาคใต้สงบลง ซึ่งนับว่าตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปทางใต้สุดอาณาเขตประเทศไทยเป็นท้องที่ปราศจากโรคระบาดสัตว์แล้ว ก็ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่อกไปปราบปรามโรคระบาดสัตว์ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เรื่อยขึ้นมาทางภาคเหนือต่อไป เมื่อการปราบโรคระบาดทางภาคใต้สงบราบคาบลงแล้ว เป็นผลให้การเจรจาส่งสัตว์ไปจำหน่ายยังต่างประเทศเป็นผลสำเร็จลง โดยรัฐบาลแห่งสหรัฐมะลายูยินยอมให้ส่งสัตว์ในจังหวัดปัตตานี ยะลา และสงขลาออกไปจำหน่ายได้สองทาง คือ โดยทางเรือจากจังหวัดปัตตานี และโดยทางรถไฟจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา.
เอกสารชุดนี้อยู่ในปี พ.ศ.๒๔๘๒ เกี่ยวกับการส่งโคกระบือไปจำหน่ายต่างประเทศของจังหวัดปัตตานี ซึ่งแต่เดิมได้ส่งโคกระบือไปจำหน่ายต่างประเทศ (สหะรัฐมะลายู) โดยบรรทุกทางรถไฟจากสถานีรถไฟโคกโพธิ์ไปสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ ต่อมาได้เริ่มงดส่งทางรถไฟ และเปลี่ยนเป็นส่งจากปัตตานีไปสิงคโปร์โดยทางเรือ.
เหล่าบุคคลผู้ปฏิบัติงานที่ปรากฏนามและลายมือชื่อในเอกสารได้แก่
- พันโท หลวงชัยอัศวรักษ์ (ไชย แสงชูโต) รักษาการหัวหน้ากองสัตวรักษ์ กรมเกษตรและการประมง ต่อเป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์และสัตว์พาหนะท่านแรก และคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยท่านแรก
- พลเรือโท หลวงสุนาวินวิวัฒ (เหลียง สุนาวิน) ข้าหลวงประจำจังหวัดปัตตานี ต่อมาเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ
- นายทวี บุณยเกต ผู้ช่วยอธิบดีกรมเกษตรและการประมง ผู้เข้าร่วมขบวนเสรีไทย ต่อมาเป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ ๕ ของไทย
- พระช่วงเกษตรศิลปะการ (ช่วง โลจายะ) อธิบดีกรมเกษตรและการประมง ต่อมาเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ
- ขุนวิจิตรพาหนการ (ใหญ่ วิจิตรพาหนการ) หัวหน้ากองสัตวรักษ์ ต่อมาเป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์คนที่ ๔
- นายพันเอกหลวงบริภัณฑ์ยุทธกิจ (เภา เพียรเลิศ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ
- ขุนเกษตรปสุกิจ (มล.เจือ นพวงศ์, สัตวแพทย์ รุ่นที่ ๕) สัตวแพทย์จังหวัดปัตตานี ต่อมาเป็น ผอ.กองวัคซีนและเซรั่ม ๒๕๒๔-๒๕๒๕
- นายวัลลภ อัศวนนท์ สัตวแพทย์ด่าน ต่อมาเป็น หน.กองวัคซีนและเซรั่ม ๒๕๐๔-๒๕๐๖
- ขุนอาทรเกษตรกิจ (พนัส ณ นคร) สัตวแพทย์จังหวัดสงขลา
- นายรัตนะ อุนยะวงศ์ สัตวแพทย์จังหวัดยะลา
สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี ขอนำเผยแพร่โดยไม่ตัดทอน เพื่อเป็นการจารึกให้ชาวกรมปศุสัตว์รุ่นหลังได้สัมผัสบรรยากาศการทำงานของข้าราชการยุคบุกเบิก.
